แก้ปัญหาลูกติดเกม
เมื่อลูกติดมือถือ คุณพ่อคุณแม่จะแก้ปัญหาและรับมืออย่างไรกันดี?
ภาพที่ 1 จาก LovePik
วันนี้เราจะมาแชร์แบ่งปันความรู้เพื่อร่วม
แก้ปัญหาไปด้วยกันนะคะ
ปัญหานี้พี่เจี๊ยบศรีว่าน่าจะเป็นปัญหาใหญ่คับอกคับใจคุณพ่อคุณแม่ในยุคติจิตอลออนไลน์นี้ทุกคนใช้มือถือเปรียบเสมือนอวัยวะที่ 33 ของร่างกายไปแล้ว🌺
ภาพที่ 2 ผู้เขียนถ่ายเอง
และด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปทุกครอบครัว ส่งผลทำให้เด็กต้องหยุดไปโรงเรียน ไม่ได้ไปเรียนทุกวันเหมือนที่ผ่านมา มีการสลับเรียนวันเว้นวันเพื่อลดการแพร่ระบาดและเพื่อป้องกันตามมาตรการของที่รัฐบาลกำหนด
พอเด็กไม่ได้ไปโรงเรียนแต่พ่อแม่ต้องทำงานทำให้เกิดปัญหาเด็กเรียนออนไลน์แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้มีสมาธิในการเรียนได้ มีแอบที่จะเล่นเกมบ้างซึ่งพี่เจี๊ยบศรีคิดว่าเป็นปัญหาของทุกบ้านในตอนนี้เพราะบ้านพี่เจี๊ยบศรีก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
แล้วเราจะจัดการอย่างไรดีกับปัญหานี้
สำหรับบ้านพี่เจี๊ยบศรีก็จะใช้วิธีทำความตกลงกับลูกเรื่องการเล่นเกมในมือถือโดยการกำหนดกฎเกณฑ์ และข้อตกลงร่วมกัน ระหว่างลูกกับเราค่ะ
เมื่อบริบทของแต่ละบ้านไม่เหมือนกันแนวทางอาจนำไปใช้ได้ผลบ้างหรือไม่ได้ผลก็ต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนกันดูค่ะ
ภาพที่ 3 จาก pixelbay
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมตามลิงก์ด้านล่างค่ะ
เด็กติดเกม ทำเด็กก้าวร้าวควบคุมตัวเองไม่ได้จิตแพทย์แนะ!วิธีป้องกันและแก้ไข
อย่าใช้ความกดดัน ให้เปลี่ยนมาใช้การคุยแบบกำหนดกฎกติการ่วมกันแบบยืดหยุ่นแต่ไม่หย่อนยาน
กำหนดเวลา
แบ่งเวลา
สร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีกับลูก
พยายามแก้ไขแบบใจเย็นโดยกำหนดกฎกติการ่วมกัน
ข้อตกลงที่ว่าก็คือ สิทธิจะได้เมื่อคุณทำหน้าที่ของคุณเสร็จแล้ว ดังนั้นถ้าคุณมีหน้าที่ทำอะไรไม่ว่าจะเป็นการบ้านหรืองานต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย ถ้าทำเสร็จแล้วจึงจะมีสิทธิ์ที่จะเล่นเกมตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้
มาดูตัวอย่างที่บ้านของของพี่เจี๊ยบศรีกันค่ะ ถ้าลูกมีการบ้านหรืองานที่คุณครูสั่งลูกต้องรับผิดชอบทำงานนั้นให้เสร็จเสียก่อนถึงจะได้เล่นเกมตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ เช่น
จะเล่นมือถือได้ 1 ชั่วโมงเท่านั้นและต้องหยุดเล่นเพื่อพักสายตา (ความเป็นจริงอาจเกินเวลาบ้างแต่ก็พอยืดหยุ่นได้นิดหน่อยค่ะ)
ในเวลากินข้าวต้องวางมือถือห้ามเล่นมือถือระหว่างกินข้าว เป็นต้น
คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์แล้วต้องทำอย่างจริงจัง และมีวินัยห้ามใจอ่อน เพราะว่าลูกของเราเขาก็จะมองดูว่าคุณพ่อคุณแม่นั้นเอาจริงไหมทำจริงหรือเปล่า
เด็ก ๆ จะมีการทดสอบเรา โดยอาจมีการต่อต้านในเบื้องต้น แต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนพยายามแล้วก็ยึดมั่นในข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ แล้วจะสามารถจัดการเรื่องมือถือได้อย่างแน่นอน
แต่ละบ้านอาจใช้เวลาไม่เท่ากันแต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่เริ่มตกลงกับเขาตั้งแต่แรก ๆ ถ้าเป็นบ้านไหนที่ยังไม่ได้ให้มือถือลูกเล่นถือว่าดีมากเลยนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะให้มือถือลูกแล้วมักจะไม่กำหนดกฎเกณฑ์ลูกก็เลยเล่นแบบไหลไปเรื่อยๆจริงไหมคะ ?
ข้อที่ควรระวัง คือ คุณพ่อคุณแม่ควรจะมีการฝึกจัดการอารมณ์ของตัวเองเป็นอันดับแรก ในการตั้งรับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในการคุยกับลูกในเรื่องนี้ (ท่องไว้ ลูกกู ดื้อเหมือนกู...จำไว้ 555 เย็นไว้โยม)
คุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องดูอารมณ์ของลูกก่อนที่จะเข้าไปพูดคุยทำความตกลงกับเขา เพราะถ้าอารมณ์เขาไม่ดีแล้วเราเข้าไปพูด ไม่เพียงแต่ลูกจะไม่ฟัง แต่พร้อมที่จะพังกับเราได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นควรหาเวลาคุยก่อนนอนเป็นตอนที่ผ่อนคลายและดีที่สุด ลองพูดคุยกับเขาดู โดยบอกถึงความรู้สึกของแม่ให้ลูกได้รู้ เช่น แม่เป็นห่วงลูกนะ แม่รักลูกไม่อยากให้ลูกเล่นมือถือจนทำให้เสียการเรียนและเสียสุขภาพ
ขอให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งสติรับมือโดยการควบคุมอารมณ์ให้ได้ก่อนนะคะ
พี่เจี๊ยบศรีขอเป็นกำลังใจให้ทุกบ้านนะคะ
แล้วพบกันใหม่บทความหน้าจะมาคุยการสื่อสารยังไงกับลูกให้ได้ผลแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นและการสร้างเงื่อนไขวางกฎกติการ่วมกันค่ะ
ด้วยรักและเป็นห่วง
พี่เจี๊ยบศรี
ติดตามผลงานของพี่เจี๊ยบศรี ได้ที่
YouTube : Jeabsri channel
FB.Page : เจี๊ยบศรี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น